บริการทุกระดับประทับใจ

นับตั้งแต่ใช้ e-banking นานๆทีถึงจะเดินเข้าธนาคารสักครั้ง ส่วนมากก็หนีไม่พ้นเรื่องจัดการเอกสารและยื่นแบบฟอร์ม ได้มีโอกาสเอา money order ของ Western Union (BidPay) เข้าบัญชีเมื่อครั้งกระนู้น เกิดความประทับใจบวกกับอ่อนใจนิดหน่อยกับ KBANK มาครั้งหนึ่ง เรื่องเอาเช็คทำนองนี้เข้าบัญชี (ใครเคยขึ้นเงิน...คงทราบดีว่าเพราะอะไร) กว่าจะทำให้โดยเสียค่าธรรมเนียมแบบประหยัด ต้องเวียนคุยแล้วคุยอีกกับเจ้าหน้าที่เสียหลายรอบ สุดท้ายก็สำเร็จจนได้.. เสียค่าธรรมเนียมเพียงแค่ 200 บาท

มาวันนี้ประทับใจเต็มร้อย เรื่องบริการของฝ่ายบัตรเครดิตธนาคารเดิม พอดีเข้าไปแปะบัตรวีซ่าของแบงก์นี้ แทนบัตรเครดิตใบเก่า สำหรับค่าธรรมเนียมของ Vendio ที่ครบกำหนด

เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าหน้าที่ KBANK โทรมาแจ้งเรื่องเอาบัตรไปทำรายการจ่ายเงินบนอินเทอร์เน็ต นึกยังไงก็นึกไม่ออก (แปะแล้วก็ลืม) เขาเลยแจงข้อมูลรายการให้ฟังครบหมด รวมทั้งยอดเงินที่สั่งจ่ายไป เลยถึงบางอ้อว่า เรานี่แหละ ทำเอง รูดเอง และสั่งจ่ายให้เขาเอง (ตอนแรกมีหวั่นนิดๆ) นี่ถ้ายังลืมหูลืมตานึกไม่ออก คงโดนอีเมล์แจ้งเตือนจากทาง Vendio อีกรอบเรื่องยกเลิกเป็นสมาชิกแบบถาวร โทษฐานหลบเลี่ยงการจ่ายเงิน

อย่างไรก็แล้วแต่ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ท่านนั้นด้วย เรื่องเตือนความทรงจำ พร้อมกับสอบถามข้อมูลรายการจ่ายเงินต้องสงสัย (นานๆทำที...จึงต้องสงสัยไว้ก่อน) ถ้าธนาคารเองก็เฝ้าระวังเรื่องพวกนี้ให้ลูกค้า พอๆกับที่ลูกค้าเองก็ระมัดระวังเรื่องการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตของตน ปัญหาเรื่องโดนโกงหรือแฮ็กข้อมูลบัตรน่าจะลดน้อยลงไปได้ ขอบคุณอีกครั้งกับ KBANK

About Me มีดีอย่าลืมสร้าง

การลงลิสต์รายการขายสินค้า เพื่อให้คนซื้อสามารถเข้ามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท ร้านหรือตัวคุณมากขึ้น สิ่งที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือการสร้างหน้าเว็บเพจที่เรียกว่า About Me ซึ่งสามารถใส่ข้อมูลรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมเข้าไปได้ โดยมีขั้นตอนง่ายๆ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะได้ URL ของหน้านั้นส่งต่อให้คนอื่นเข้ามาดูได้ และจะปรากฎไอคอนเล็กๆโชว์คำว่า “me” ติดกับอีเบย์ไอดีของคุณด้วย เมื่อลูกค้ากดคลิกอ่านก็จะเข้าสู่หน้าเว็บเพจดังกล่าว นอกจากนั้นอีเบย์ยังมีแท็กพิเศษอื่นๆเพื่อช่วยเติมเป็นลูกเล่นอีกเพียบ เช่น เอา Feedback ของคุณมาโชว์ แสดงรายการสินค้าที่คุณประกาศขาย แสดงเวลาอีเบย์ และอื่นๆ ใครที่ถนัดเขียนเว็บคงพอจะนึกออกว่าจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง ลองคลิกที่นี่

ตามล่าหาตำแหน่งสินค้า

ข้อติดใจที่สุดเมื่อลงรายการสินค้าขายผ่านอีเบย์ หลายท่านมักจะแปลกใจว่าสินค้าชิ้นดังกล่าวแสดงจริงหรือไม่ ถ้าแสดงจริงจะปรากฏอยู่บนส่วนไหนของอีเบย์ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ลองดูวิธีนี้ครับ

1.คลิกเข้าไปที่ Advance Search


2.มองหาแถบรายการ Search ซ้ายมือ เลือก By Item Number


3.ใส่หมายเลขสินค้าเข้าไป แต่เปลี่ยนรายการเลือกเป็น Find Location of item


4.กด Search


5.ตำแหน่งที่ลงประกาศไว้จะแสดงไว้ดังภาพ

พัสดุย่อยทางอากาศลงทะเบียน

การจัดส่งสินค้าไปให้ลูกค้าผู้ชนะประมูลเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยุ่งยากสำหรับผู้ขายมือใหม่ บางทีอาจจะมีคำถามว่าเลือกบริการแบบไหน และเลือกใครเป็นผู้ให้บริการดี ง่ายสุดเห็นจะหนีไม่พ้นบริการของไปรษณีย์ไทย ซึ่งถือว่าถูกที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการอื่นๆและเป็นที่นิยมใช้กัน แต่ถ้าใครกระเป๋าหนักพอที่จะจ่ายค่าส่งแพงและเร็วกับ FedEx, DHL หรือ UPS ก็เลือกได้

พูดเรื่องไปรษณีย์ไทย จริงแล้วมีบริการเยอะไปหมด ทั้ง EMS ยังแบ่งเป็นชนิดเอกสารกับไม่ใช่เอกสารอีก สำหรับพัสดุไปรษณีย์ จดหมาย ของตีพิมพ์ ของตีพิมพ์ (หนังสือ) ก็ยังแบ่งย่อยวิธีการส่งให้เลือกได้อีกว่าจะส่งทางอากาศ ทาง SAL (Surface Air Lifted - ทั้งอากาศ เรือ ภาคพื้นปนกัน) หรือเลือกส่งทางภาคพื้นแต่อย่างเดียว ที่นิยมมากสุดน่าจะเป็น “พัสดุย่อยทางอากาศ” บวกการ “ลงทะเบียน” อีก 55 บาทต่อรายการ จัดได้ว่าถูกที่สุดและเหมาะกับการส่งสินค้าไปต่างประเทศแบบประหยัดและไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไปนัก ราว 10-14 วันลูกค้าก็จะได้รับของ โดยมีข้อจำกัดคือ สินค้าที่ส่ง ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม และห่อพัสดุนั้นต้องไม่มีการปิดผนึก กาว หรือเทปแปะไว้ (ก้นกล่องสามารถติดเทปกาวได้) ทำได้คือมัดแค่เชือกอย่างเดียว ส่วนใครเลือกส่งแบบซองจดหมายก็ต้องใช้วิธีการเย็บแม็กแทนการปิดผนึก ใครอยากประหยัดค่าส่งแต่มีข้อจำกัดแบบนี้ เดินไปบอกที่เคาน์เตอร์ได้เลยว่าเลือกส่งแบบ “พัสดุย่อยทางอากาศลงทะเบียน” ท่องไว้แค่นี้ ก็จะประหยัดเงินค่าส่งได้

อีเบย์มิวสิควิดีโอ เวอร์ชั่นมหาชน

ถ้ายังจำกันได้กับเพลงล้อเลียนอีเบย์ที่มีคนแปลงจากต้นฉบับของ BackStreet Boys จากเพลง “I want it that way” โดยแต่งเนื้อหาใหม่ ดนตรีเดิม เข้ากับอีเบย์ได้สนุกดีพิลึก ใครที่เป็นสาวกอีเบย์คงจะอดขำไม่ได้ โผล่เข้าเว็บกูเกิ้ลวิดีโอ (เริ่มทำ video marketplace แล้ว) ค้นหาวิดีโอเกี่ยวกับอีเบย์ มีทำออกมาเป็นมิวสิคอีกหลายแนว คราวนี้ถ่ายเป็นภาพเคลื่อนไหว คาดว่าคงมีคนโหลดไปดูเล่นมากเช่นกัน ใครที่อยากลองถ่ายวิดิโออีเบย์ภาคคนไทยแสดง น่าจะดีไม่น้อย จับเอาเพลงเดิมแต่ใส่รายละเอียดนักแสดงคนไทยมือสมัครเล่น ใส่เข้าไปแล้ว ปล่อยในกูเกิ้ลวิดีโอหรือสตรีมมิ่งของ youtube เผลอๆงานนี้อาจโดนฮอลลีวู้ดทาบทามก็ได้ ใครจะไปรู้

ตัวอย่างมิวสิควิดีโอ :
วิดีโอแบบที่ 1
วิดีโอแบบที่ 2
วิดีโอแบบที่ 3
วิดีโอแบบที่ 4

ข้อแนะนำ :
การดูผ่านเว็บอาจไม่ต่อเนื่องถ้าการเชื่อมต่อเน็ตไม่ได้แรงอย่างที่คาด ยิ่งแบบ dial up ไม่ต้องพูดถึง ลองดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ดูในเครื่องได้ที่นี่ (ข้อมูลจาก eb1og.com)

ข้อมูลเพิ่มเติม :
I want it that way ภาคเด็กจีน
อีเบย์วิดีโอเวอร์ชั่นภาพนิ่ง

เครื่องมือช่วยคำนวณ PayPal Fee

ค่าใช้จ่ายรับส่งเงินด้วยระบบ PayPal มีอยู่หลายอัตราด้วยกัน สำหรับมาตรฐานทั่วไปเมื่อส่งเงินจากนอกประเทศเข้า PayPal ที่เปิดในเมืองไทย จะเสียอยู่ที่อัตรา 3.9% + 0.30 (PayPal Standard Rate) ถ้าต้องการบวกลบคำนวณเองก็ไม่ยาก แต่ถ้าต้องการตรวจสอบกลับไปกลับมาระหว่างค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย เงินสุทธิที่จะได้รับ และยอดที่รับจริงจากลูกค้า จะได้เอาไปวางแผนได้สำหรับตั้งราคาขายและเก็บเงินค่าบริการอื่นๆลองหาเครื่องมือจากเว็บช่วยสำหรับคำนวณค่าธรรมเนียมที่นี่ดู http://www.ppcalc.com/ ลดภาระไปได้เยอะทีเดียวเชียว

ข้อมูลอ่านประกอบ :
ค่าธรรมเนียมของ PayPal

บอร์ดของคนหัดเขียน HTML

การลงประกาศขายของบนอีเบย์ ถ้าอยากจะทำให้รายการขายดูน่าสนใจมากขึ้น ก็คงต้องแปะโค้ด HTML ลงไปให้ดูมีสีสันขึ้นมาบ้าง หลายคนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบคำสั่งและรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ อาจเลือกใช้บริการของผู้ออกแบบเว็บ แล้วนำโค้ดแปะลงไป ก็ช่วยลดปัญหาความไม่เข้าใจเหล่านี้ลงไปได้ แต่ใครที่อยากลองเอง เขียนเอง ทำเอง รู้เอง เชี่ยวชาญเอง ลองหัดเขียนก็ไม่น่าจะยาก หาเว็บหัดเขียนแล้วโพสต์ทดสอบแปะโค้ดนั้นเล่นๆก่อนใช้ประกาศขายจริงบนอีเบย์ เพื่อจะได้รู้ข้อผิดพลาดและนำไปแก้ไขได้ทัน เช่น ภาพไม่ออก โหลดไม่ขึ้น ตัวอักษรเพี้ยน ภาพตกกรอบ โดยแปะแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะคล้ายกับที่ลงประกาศขายในอีเบย์จริง เอาไปประยุกต์ใช้และฝึกหัดเขียน ลองเข้าที่นี่ เว็บสำหรับทดสอบโค้ดที่เขียน HTML

http://www.practiceboard.com
http://www.practicewriter.com

ติดขัดตรงไหน ลองแปะโค้ดเล่นๆและส่ง URL ของคุณมาช่วยให้แก้ไข เผื่อมีเวลาจะลองปรับแต่งให้ดีขึ้น (ฟรี...ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง)

เรื่องของจุดเก้าเก้า

ในรายการลงขายของแต่ละท่าน ค่าธรรมเนียมเบื้องต้นที่ต้องจ่ายให้กับอีเบย์อยู่แล้ว หนีไม่พ้น Insertion Fees นี่แหละ ใครลงราคาสูงมากก็จ่ายค่าลงรายการสูงเป็นธรรมดา หลายคนจึงล่อลูกค้าด้วยราคาประมูลที่ต่ำ เพื่อเป็นการลดค่าธรรมเนียม แต่บางกรณี ถ้าสินค้าไม่น่าสนใจพอ การลงประมูลด้วยราคาที่ต่ำเกินไปก็ทำให้ขาดทุนแบบย่อยยับได้ ผู้ขายบางคนจึงหาทางประหยัดด้วยวิธีการลงสินค้าให้พอดีกับช่วงชั้นราคานั้น โดยทั่วไปอีเบย์จะกำหนดช่วงราคาค่าธรรมเนียมลงขายอยู่ 7 ชั้นด้วยกันคือ

• $0.01 – $0.99 เสีย $0.25
• $1.00 – $9.99 เสีย $0.35
• $10.00 – $24.99 เสีย $0.60
• $25.00 – $49.99 เสีย $1.20
• $50.00 – $199.99 เสีย $2.40
• $200.00 – $499.99 เสีย $3.60
• $500.00 ขึ้นไปเสีย $4.80

ยิ่งลดค่าธรรมเนียมลงได้มาก ต้นทุนก็ถูกลงมาก ของขายยิ่งมีเยอะ ต้นทุนลดได้เยอะ กำไรก็ได้มากกว่าเดิม จากรายการค่า Inserting Fees ในแต่ละช่วง ถ้าใครลงรายการไว้ที่ $10.00 ลองปรับราคาประมูลให้เหลือเพียง $9.99 ก็จะประหยัดไปได้ถึง $0.25 ($0.60-0.35) หรือจากเดิมลงไว้ที่ $25.00 ลองปรับให้อยู่ช่วงเกณฑ์ที่สอง คือเหลือแค่ $24.99 ก็จะลดค่าธรรมเนียมแบบช่วงชั้นนี้ลงไปได้ถึง $0.60 ($1.20-$0.60) ถ้าขายสินค้าเดือนหนึ่งลงสัก 100 ชิ้นก็จะประหยัดค่าลงรายการได้มากถึง $60 ก็ราวๆ 2400 บาททีเดียว เทคนิคนี้ถ้าใช้ร่วมกับการประหยัดเงินในช่วงชั้นของการส่งของตามอัตราการคิดเงินของไปรษณีย์ไทย ก็ไม่เลว

ข้อมูลเพิ่มเติม
ค่าธรรมเนียมอีเบย์
พิกัดตารางค่าขนส่งไปรษณีย์ไทย

MDH จบประมูลด้วยราคาสูงตามคาด

และแล้วพันพิกเซลที่เหลือของ Million Dollar Homepage ก็จบประมูลด้วยราคาสูงลิ่วตามคาด โอ้วพระเจ้า!!! US $38,100.00 อะไรมันจะแย่งกันมากมายขนาดนี้ คงเป็นเพราะว่าเป็นส่วนที่เหลือสุดท้ายแล้วก็ได้ (ไม่รู้วางแผนไว้ด้วยหรือเปล่าว่าจะให้จบด้วยการประมูลที่อีเบย์)งานนี้ถ้าเป็นผมจะขยายต่อระบบงานเป็นเฟสสอง เฟสสาม เฟสสี่ตามมาแน่นอน แต่อย่างว่าคนเรามีจุดยืดไม่เหมือนกัน แค่นี้พ่อหนุ่มคนนี้ก็รวยบานตะไทแล้ว ไม่นับกับชื่อเสียงและต้องตระเวนออกรายการทั้งอังกฤษและอเมริกาอีก นับว่าคุ้มมากทีเดียว เจอกรณีศึกษาแบบนี้ก็อึ้งกิมกี่ไปเหมือนกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม
รายการประมูลพันพิกเซล
เนื้อหาอ่านประกอบ : พันพิกเซลบนอีเบย์

PayPal VS Google Wallet

เชื่อแน่ว่า 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปของสาวกอีเบย์ทั้งหลาย คงจะเลือกใช้บริการจ่ายเงินผ่านระบบ PayPal กับแทบจะทั้งสิ้น เพราะค่อนข้างเป็นระบบที่ง่าย สะดวก รวดเร็วและมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังสามารถรองรับผู้ที่ทำมาค้าขายในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

ข่าวล่าสุดคงทำให้ PayPal ร้อนๆหนาวๆ เพราะ Google เจ้าพ่อวงการเว็บค้นหาข้อมูลรายใหญ่ของโลก ได้ทดลองนำระบบชำระเงินของ Google เองใช้บ้างแล้ว โดยรูปแบบคล้ายกับ PayPal และเบื้องต้นใช้ชิมลางกับ Video Marketplace ตลาดวิดีโอออนไลน์ของตนเองเสียก่อน เพื่อให้คนมาเลือกซื้อวิดีโอและจ่ายเงินผ่านระบบได้เลย คนที่มีแอคเค้าท์ของกูเกิ้ลเองก็สามารถใช้ได้ โดยกรอกข้อมูลบัตรและรายละเอียดที่จำเป็นลงไป แค่นี้ก็เตรียมช็อปเตรียมจ่ายกันได้สบายใจแฮ ว่าแต่ไม่รู้จะรุกคืบเข้ามาในอีเบย์ได้หรือเปล่า

ทางเลือกของคนประหยัดงบ

ปัญหาที่น่าหนักใจอีกประการหนึ่งของ Seller ทั่วไปคือ “ค่าใช้จ่าย” “ค่าใช้จ่าย”และ “ค่าใช้จ่าย” เขียนแบบนี้อาจฟังดูเข้าใจยาก แต่ถ้าจะบอกว่าการขายของบนอีเบย์ใช่ว่าจะมีแค่ค่าธรรมเนียมการลงขายของ ค่าธรรมเนียมเมื่อขายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกจิปาถะ จนหลายๆคนบ่นว่าทำไมมันยุบยับ ยิบย่อย หยุมหยิมอะไรเช่นนี้ บางคนก็เล่นหนีไปเสียดื้อๆแทนที่จะทนต่ออีกสักหน่อย เพื่อหวังรวยกับเขาบ้าง คิดอีกแง่ก็ดีเหมือนกันจะได้หมดคู่แข่งไปจากสารบบ (ฮ่าๆๆ!!)

ถ้าสังเกตให้ดี การขายของบนอีเบย์นั้นสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการเน้นรูปภาพเพื่อลงขาย สำหรับการลงประกาศทั่วไปอีเบย์จะแถมภาพให้ลงฟรีได้เพียงแค่ 1 ภาพเท่านั้น ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ต้องเสีย “ค่าใช้จ่าย” เพิ่มอีกภาพละ $0.15 ภาพก็จะมีต่อยาวให้เห็นในประกาศได้มากขึ้น แต่จริงๆแล้วภายในรายการที่ลงประกาศเราสามารถหาโฮสต์เพื่อเอาภาพมาลงเองโดยใส่โค้ดลงไปได้ อยากจะได้กี่ภาพ จัดวางมุมไหนก็ใส่โค้ดลิ้งของภาพให้ถูกแค่นั้นก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่ม ถ้าสินค้าที่คุณขายต้องการนำเสนอภาพในหลายรายละเอียด หลายมุมมอง การโชว์ภาพบนประกาศให้ลูกค้าเห็นน่าจะเป็นทางออกที่ไม่เลว อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาตัดสินใจซื้อสินค้ารายการนั้นของคุณได้ง่ายขึ้น

www.photobucket.com เป็นโฮสติ้งสำหรับเก็บรูปฟรีอีกแห่งหนึ่งที่ Seller หลายคนนิยมเลือกใช้สำหรับเก็บภาพสินค้าและนำเอาโค้ดไปแปะไว้ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสำหรับเก็บรูปไว้ที่โฮสต์จ่ายตังค์ได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังสามารถเรียกดูภาพได้เร็ว ไม่ค่อยมีปัญหาสำหรับการเรียกดูบ่อยนัก แต่ต้องสมัครเป็นสมาชิกของเขาเสียก่อน โดยทาง photobucket เองก็สนับสนุนให้เอาโค้ดไปแปะในประกาศบนอีเบย์ได้อยู่แล้ว แน่นอนว่าไม่ต้องกังวลว่าจะผิดกฎหรือข้อห้ามของเว็บเขาแต่อย่างใด สำหรับวิธีการใช้นั้นไม่ยากนักครับ อ่านแล้วทำตามขั้นตอนที่เว็บเขาเขียนไว้ก็ได้ เขียนละเอียดดีทีเดียว คลิกที่นี่ครับ แค่นี้ก็ประหยัดงบเรื่องเช่าโฮสต์เก็บรูปได้แล้ว

พันพิกเซลบนอีเบย์

จากที่เคยเอ่ยถึงเว็บ Million Dollar Homepage ที่เจ้าตัวทำเพียงแค่หาเงินเป็นทุนเรียนหนังสือ (อ่านบทความก่อนหน้าได้ ที่นี่) ณ เวลานี้เหลือพื้นที่ว่างอีกเพียง 1,000 พิกเซล (5x2=10 ช่อง) เท่านั้น และด้วยความต้องการพิกเซลตามกระแสที่มากมายขนาดนี้ นาย Alex Tew เจ้าของแนวคิดดังกล่าว จึงตัดสินใจเอา 1,000 พิกเซลที่เหลือของ Million Dollar Homepage เข้ามาเอี่ยวในเว็บประมูลอีเบย์ดอทคอมจนได้ และแน่นอนว่าเป็นไปตามความคาดหมาย ที่รายการสินค้าของเขาได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ที่สำคัญคือได้ราคาประมูลที่ดีเสียด้วย ปริมาณคนเข้ามาชมสี่แสนกว่ารายที่เป็น uniqe visitor ย่อมเป็นเครื่องการันตีได้ไม่ยากนัก ไม่พอแค่นั้นเจ้าตัวบอกว่าตั้งแต่เริ่มลงประมูล ก็มีสมาชิกของอีเบย์เกือบสองถึงสามพันรายที่ watch list รายการสินค้าดังกล่าวเอาไว้ด้วย นัยสำคัญน่าจะมีความหมายบางอย่างและส่อให้เห็นแนวโน้มได้ว่า ราคาประมูลสินค้ารายการนี้น่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะเมื่อถึงวินาทีสุดท้าย งานนี้บอกได้คำเดียวว่านาย Alex Tew คนนี้ รวยเละไปแล้ว!!

หมายเหตุ : รายการประมูลดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2549 ตั้งประมูลไว้ที่ 10 วัน จะจบประมูลในวันที่ 11 มกราคม 2549 เริ่มต้นประมูลที่ราคา $1.00 ถึงเวลานี้คงไม่ต้องบอกแล้วว่าได้ราคาเท่าไหร่ คลิกไปดูเองครับ ที่นี่